ยางหน้าตายคือ

อาการยางหน้าตาย คือ การที่เปลือกของต้นยางพารา เริ่มมีอาการแห้งแข็ง และ เมื่อกรีดยางแล้ว มีน้ำยางไหลออกมาน้อย ไหลแล้วแห้งหยุดเร็ว หรือ ไม่ไหลออกมาเลย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลผลิตยางพารา และ ควรได้รับการแก้ไขโดยเร็ว

ตารางสูตรปุ๋ยยางพารา ยางเล็ก ยางเปิดกรีดแล้ว 5 ปี 10 ปี

สอบถามข้อมูลยางพาราเพิ่มเติม:

• FB: ปุ๋ยวายวีพี
• FB: ปุ๋นแนนซี่
• FB: ปุ๋ยรามสูร
• โทร: 02-928-1299

หรือ ติดต่อเรา

สาเหตุที่ หน้ายางตาย น้ำยางไม่ไหล น้ำยางไหลออกน้อย

หนึ่งในสาเหตุหลัก ที่ต้นยางพารา จะมีอาการหน้าตาย น้ำยางไม่ไหล หรือ น้ำยางไหลออกน้อย คือ อาการขาดธาตุอาหาร โดยเฉพาะธาตุอาหารรองเสริม ในกลุ่ม แคลเซียม (Ca) และ แมกนีเซียม (Mg) ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่มีผลโดยตรงต่อการสร้างเปลือก และ การบำรุงเปลือกของต้นยางพารา ให้สมบูรณ์ แข็งแรง และ มีความพร้อมที่จะให้ผลผลิตที่ดีได้

ซึ่งต้นยางพารา ที่ขาดการดูแล ขาดการเติมธาตุอาหารเป็นเวลานาน หรือ มีการเติมธาตุอาหารเฉพาะธาตุอาหารหลัก NPK เป็นระยะเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไป ธาตุอาหาร รองเสริมอื่นๆ ที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต และ การให้ผลผลิตของต้นยางพารา ก็จะค่อยๆหมดไป

และ ทำให้ต้นยางพารา เริ่มให้ผลผลิตที่ลดลง มีอาการยางหน้าตายเกิดขึ้นได้ และ ทำให้ น้ำยางเริ่มไหลน้อย หรือ อาจไม่ไหลไปในที่สุด

 

วิธีแก้ หน้ายางตาย น้ำยางไม่ไหล น้ำยางไหลออกน้อย

โดยวีธีการแก้ไขอาการ ยางหน้าตาย น้ำยางไม่ไหล หรือ น้ำยางไหลออกน้อย คือ การเติมธาตุอาหารให้ครบถ้วน โดยเฉพาะธาตุอาหารรองเสริม เช่น แคลเซียม (Ca) และ แมกนีเซียม (Mg) โดยการแก้ไขนั้น จะสามารถทำได้ทั้งการแก้ไขแบบเร่งด่วนในระยะสั้น และ การแก้ไขแบบยั่งยืนในระยะยาว

• การแก้ไขในระยะสั้น

การแก้ไขในระยะสั้น จะต้องเน้นเเติมธาตุอาหารรองเสริม ในรูปแบบที่ละลายได้เร็ว ดูดซึมได้เร็ว เพื่อช่วยเติมธาตุอาหารที่ต้นยางพาราขาดแบบเร่งด่วน โดยอาจะเลือกใช้ ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ หรือ ปุ๋ยเกล็ดในการละลายน้ำ และ ฉีดพ่นไปที่หน้ายาง และ บริเวณโคนต้น ซึ่งปุ๋ยในรูปแบบนี้ จะละลายได้อย่างรวดเร็ว และ ทำให้ต้นยางพารา สามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

และเมื่อ ต้นยางพารา ได้รับธาตุอาหารที่ขาดไปแล้ว ก็จะช่วยให้ต้นยางพาราสามารถเริ่มการฟื้นฟู และ สามารถกลับมาให้ผลผลิตที่ดีได้ ในลำดับถัดไป

• การแก้ไขในระยะยาว

ในระยะยาวนั้น เกษตรกรควรมีการเติม ธาตุอาหารทางดินให้ยางพารา อย่างครบถ้วน เนื่องจากปุ๋ยทางใบเพียงช่องทางเดียวนั้น อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของต้นยางพาราในระยะยาว โดยตัวอย่างสูตรปุ๋ยเช่น 28-4-18 + S + Mg หรือ 20-8-20 + S

โดยสูตรปุ๋ยที่เลือกใช้นั้น ก็ควรเป็นสูตรที่มีการผสมทั้งธาตุอาหารหลัก NPK ในอัตราส่วนที่เหมาะสม กับ ต้นยางพายาในแต่ละพื้นที่ และ ควรมีธาตุอาหารรองเสริม เช่น ซัลเฟอร์ (S) แคลเซียม (Ca) และ แมกนีเซียม (Mg) ด้วย เพื่อให้ต้นยางพารา ได้รับธาตุอาหารอย่างครบถ้วน ในระยะยาว และ มีความแข็งแรง มีความพร้อม ที่จะให้ผลผลิตที่ดีได้ อย่างต่อเนื่อง

โดยทางเลือกของธาตุอาหารรองเสริมนั้น อาจมี โดโลไมท์ ซึ่งมีธาตุอาหาร แคลเซียน (Ca) และ แมกนีเซียม (Mg) และ ยังมีคุณสมบัติช่วยในการปรับปรุงดิน ซึ่งทาง YVP GROUP จะมีการเติมเข้าไปในปุ๋ยทุกๆสูตร หรือ อาจเลือกใช้ กีเซอไรท์ ซึ่งมี ซัลเฟอร์ (S) และ แมกนีเซียม (Mg) ก็ได้เช่นกัน

เมื่อมีการเติมธาตุอาหารหลัก – รอง – เสริม ให้ต้นยางพาราอย่างครบถ้วนแล้วนั้น ก็จะทำให้ต้นยางพารามีความสมบูรณ์ แข็งแรง ทนต่อโรค ต่อสภาพอากาศ ได้ดีมากขึ้น และ สามารถให้ผลผลิตที่ดีได้ ต่อเนื่องมากขึ้นไปด้วยนั้นเอง

 

วิธี ทำให้ น้ำยางออกเยอะ

วิธีที่จะทำให้ต้นยางพารา มีน้ำยางออกได้เยอะ ออกได้มาก ต่อเนื่อง คือเราจะต้องบำรุง และ ดูแลต้นยางพารา ให้มีความสมบูรณ์ แข็งแรง อยู่อย่างเสมอ โดยต้องทำให้ต้นยางพาราได้รับ น้ำ ความชื้น แสงแดด และ ธาตุอาหาร ที่เหมาะสม และ เพียงพอ เมื่อต้นยางพารามีความสมบูรณ์แข็งแรง ก็จะสามารถให้ผลผลิตน้ำยางพาราได้ดี น้ำยางข้น เปอร์เซ็นต์ สูง ปริมาณมาก

โดยแนวทางการเติมธาตุอาหารให้ยางพารา อย่างเหมาะสมนั้น ควรจะต้องพิจารณาตามสภาพแวดล้อม และ บริเวณพื้นที่ ที่ปลูกต้นยางพาราประกอบไปด้วย เนื่องจากในแต่ละพื้นที่ ก็จะมี สภาพอากาศ ปริมาณน้ำฝน ต่างๆ ที่แตกต่างกันไป สูตรปุ๋ย จึงสามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ได้ เพื่อให้เราได้ประโยชน์จากปุ๋ย และ ธาตุอาหารที่เติมลงไป อย่างเต็มประสิทธิภาพ

และ นอกจากการเติมธาตุอาหารหลัก NPK แล้วนั้น เพื่อที่ตะให้ต้นยางพารามีความสมบูรณ์ต่อเนื่อง เกษตรกรยังควรต้องเติมธาตุอาหารรองเสริมอีกด้วย ซึ่งแม้ว่าต้นยางพาราจะต้องการในปริมาณไม่มาก แต่หากไม่มีการเติมเลยในระยะยาว ก็มีโอกาสที่จะขาดธาตุอาหารเหล่านี้ได้

ซึ่งธาตุอาหารรองเสริม ที่ควรเติมต่อเนื่อง ได้แก่ ธาตุ ซัลเฟอร์ (S) แคลเซียม (Ca) และ แมกนีเซียม (Mg) จะเป็นกลุ่มธาตุรองที่ต้องการในปริมาณปานกลาง ซึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ในด้านธาตุอาหาร และ ราคา ได้แก่ โดโลไมท์ ซึ่งมี แคลเซียม (Ca) และ แมกนีเซียม (Mg) หรือ กีเซอไรท์ ซึ่งมี ซัลเฟอร์ (S) และ แมกนีเซียม (Mg)

หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือ การเลือกปุ๋ยสูตร ที่มีการเติมธาตุรองเสริมกลุ่มนี้ลงไปอยู่แล้ว เช่นสูตร 28-4-18 + S + Mg หรือ 20-8-20 + S ก็จะทำให้ต้นยางพารา ได้รับทั้งธาตุอาหารหลัก NPK และ ธาตุอาหารรองเสริม ไปพร้อมๆกันในการใช้งานครั้งเดียว