ปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 คืออะไร?

ปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 คือ แม่ปุ๋ยเคมี โพแทสเซียมคลอไรด์ หรือที่รู้จักกันในนาม ปุ๋ยหวาน หรือ ปุ๋ยเร่งผลผลิต สามารถใช้เป็นแม่ปุ๋ยเพื่อผสมเป็นสูตรต่างๆ หรือ ใช้โดยตรงในพืชในช่วงการเพิ่มผลผลิต เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มแป้ง หรือ เพิ่มความหวานได้ดี เนื่องจากธาตุอาหารโพแทสเซียมมีผลโดยตรงต่อผลผลิตทางการเกษตรเกือบทุกชนิด มีส่วนช่วยในการเพิ่มแป้ง เพิ่มน้ำตาล เพิ่มความหวาน และ เพิ่มผลผลิตของพืช

สารบัญ:

• ปุ๋ย 0-0-60 ใส่นาข้าว
• ปุ๋ย 0-0-60 ใส่ปาล์มน้ำมัน
• ปุ๋ย 0-0-60 ใส่มันสำปะหลัง
• ปุ๋ย0-0-60 ได้จากอะไร?
• จุดเด่นของ 0-0-60 จากน้ำทะเลเดดซี อิสราเอล

สอบถามราคา หรือ ข้อมูลเพิ่มเติมปุ๋ย 0-0-60 น้ำทะเลอิสราเอล

• Facebook: ปุ๋ยวายวีพี
• Facebook: ปุ๋ยแนนซี่
• Facebook: ปุ๋ยรามสูร
• โทร: 02-928-1299

ปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 บำรุงอะไร?

ปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 ใช้เพื่อบำรุงผลผลิต สร้างเนื้อ สร้างแป้ง สร้างน้ำตาล เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มความหวาน มีส่วนช่วยในการเพิ่มภูมิต้าน จาก โรค แมลง ความแห้งแล้ง และ สภาพอากาศ และ ยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุอาหาร ไนโตรเจน (N) และ ฟอสฟอรัส (P) ในพืชอีกด้วย

ปุ๋ยโพแทสเซียมมีส่วนช่วยในการกระบวนการสังเคราะห์แสง สร้างโปรตีน สร้างแป้ง สร้างน้ำตาล รวมถึงเอนไซม์กว่า 80 ชนิดสำหรับการทำงานของเซลล์พืช

นอกจากนี้ ธาตุอาหารโพแทสเซียม ยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุอาหารไนโตรเจน (N) และ ธาตุอาหารอื่นๆของพืช

มีส่วนช่วยทำให้พืชสามารถลำเลียงอาหาร จากดินเข้ามาในราก และ จากรากสู่ส่วนต่างๆของพืชได้อย่างเต็มที่

การใช้ปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 สามารถช่วยเพิ่มผลผลิตกับพืชต่างๆ ได้อย่างมีนัยะสำคัญ เช่น:

• ข้าว รวงเต่ง น้ำหนักดี
• มันสำปะหลัง ระเบิดหัว แป้งเยอะ น้ำหนักดี
• ปาล์มน้ำมัน ทลายใหญ่ น้ำหนักเยอะ
• พืชไร่ สำหรับการเพิ่มผลผลิต ไม่ว่าจะเป็น อ้อย ข้าวโพด ฯลฯ
• ทุเรียน เพื่อการขยายลูก เพิ่มน้ำหนัก ทำหวาน แต่ปุ๋ยโพแทสเซียมซัลเฟต (0-0-50) มักได้รับความนิยมมากกว่า
• ไม้ผล เพื่อสร้างเนื้อผลไม้ น้ำหนักดี มีรสชาติหวานอร่อย

อ้างอิงข้อมูลปุ๋ยโพแทสเซียม

 

การใช้งานปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 ใส่นาข้าว

เกษตรกรสามารถเลือกใช้ ปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 ใส่ข้าวได้ 2 วิธีคือ:

1. ใส่เป็นแม่ปุ๋ย 0-0-60 โดยตรงในนาข้าว ในปริมาณ 15 – 20 กิโลกรัมต่อไร่
   • โพแทสเซียม (K) เป็นธาตุอาหารที่ข้าวต้องการในปริมาณมากที่สุด มีส่วนช่วยในการสร้างรวง ทำให้รวงเต่ง เต็มเมล็ด น้ำหนักดี
   • เป็นตัวเลือกในการลดต้นทุน โดยการผสมปุ๋ย โพแทสเซียม 0-0-60 ร่วมกับแม่ปุ๋ย หรือ ปุ๋ยสูตรอื่นๆ ด้วยตนเอง
2. ใส่เป็นปุ๋ยสูตร 15-5-20 YVP หรือ 15-3-21 แนนซี่ ปริมาณ 20 – 25 กิโลกรัมต่อไร่ ในช่วงรับรวง เร่งผลผลิต
   • มีอัตราส่วนของ N:P:K เป็นไปตามความต้องการของต้นข้าวอย่างแท้จริง ตามงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
   • ปุ๋ยสูตรของ YVP และ แนนซี่ มีส่วนผสมของ ธาตุอาหารรองเสริม ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของ ต้นข้าว และ รวงข้าว ได้แก่ ซัลเฟอร์ (S) แคลเซียม (Ca) และ แมกนีเซียม (Mg)
   • มีความสะดวกในการใช้งาน ไม่ต้องผสมคลุกเคล้าปุ๋ยด้วยตัวเอง ซึ่งอาจคลุกเคล้าได้ไม่ทั่วถึง หรือ อาจทำให้สูตรออกมาไม่ตรงตามความต้องการได้

เทคนิควิธีการใส่ปุ๋ย และ จัดการธาตุอาหารในนาข้าวให้ผลผลิตสูง

ประโยชน์ของปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 ใส่ในนาข้าว:

ปุ๋ย 0-0-60 ในนาข้าว ช่วยทำหน้าที่ในการเปลี่ยนเอนไซม์ต่างๆ ให้เป็นแป้งและน้ำตาล ช่วยทำให้รวงเต่ง น้ำหนักดี เต็มเมล็ด นิยมใส่เพื่อรับรวงข้าว ช่วงข้าวตั้งท้อง เพิ่มผลผลิต นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม ธาตุอาหารไนโตรเจน (N) และ ฟอสฟอรัส (P) ทำให้ต้นข้าวเจริญเติบโตได้เต็มที่ มีความแข็งแรง และ ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการต้านทานโรค แมลง วัชพืช และ ความแห้งแล้งได้มากยิ่งขึ้น

อาการเมื่อข้าวขาดธาตุโพสแทสเซียม 0-0-60:

ข้าวที่ขาดธาตุอาหารโพแทสเซียม (K) จะแสดงอาการ ใบเหลือง หรือ น้ำตาล อาการคล้ายใบไหม้ หรือ มีจุดสีน้ำตาลแสดงขึ้นมาในใบข้าว และจะส่งผลให้ผลผลิตข้าวได้น้ำหนักน้อย รวงไม่เต่ง ผลผลิตไม่ดี

นอกจากนี้ ข้าวที่ขาดธาตุอาหารโพแทสเซียม (K) 0-0-60 จะแสดงอาการขาดไนโตรเจน (N) และฟอสฟอรัส (P) ผสมกัน เพราะการขาดโพแตสเซียม (K) จะทำให้พืชไม่สามารถนำ N และ P ไปใช้งานได้เต็มที่ ส่งผลให้พืชอ่อนแอ และไม่สามารถสร้างผลผลิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ปริมาณความต้องการปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 ในนาข้าว:

ต้นข้าวต้องการธาตุอาหารโพเทสเซียม (K) 20 – 23 กก. ต่อไร่ ซึ่งเป็นปริมาณธาตุอาหารที่ข้าวต้องการมากที่สุด ซึ่งอาจแตกต่างจากความเข้าใจดั้งเดิมโดยทั่วไป ที่มักให้ความสำคัญกับ ธาตุอาหารไนโตรเจน (N) สูงที่สุดในนาข้าว

ซึ่งแท้จริงแล้ว นาข้าวนั้นมีความต้องการธาตุอาหารไนโตรเจน (N) เพียง 15 – 20 กก. ต่อไร่ ซึ่งน้อยกว่าธาตุอาหารโพแทสเซียม (K)

แต่เนื่องจากในอดีตนั้น หลายๆพื้นที่ในประเทศไทย จะมีธาตุอาหารโพแทสเซียม (K) หลงเหลืออยู่แล้ว ทำให้คำแนะนำวิธีการการใส่ปุ๋ยในนาข้าวของประเทศไทย จึงอาจไม่ได้แนะนำให้เติมธาตุอาหารโพแทสเซียม (K) เพิ่มเข้าไปในการเพาะปลูกข้าว ทำให้เกษตรกรหลายๆคน มุ่งเน้นที่ความสำคัญของปุ๋ยไนโตรเจน (N) ในนาข้าวเป็นหลัก

ซึ่งความเข้าใจนี้ไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกต่อไปแล้วในปัจจุบัน เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกข้าวในประเทศไทย มักจะเป็นพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกซ้ำเป็นประจำในทุกๆปี

เพราะฉะนั้น ธาตุอาหารที่อาจมีสะสมอยู่ในดินในอดีตนั้น ก็จะถูกข้าวใช้งาน และลดลงไปอย่างต่อเนื่อง และอาจหมดไปแล้วในปัจจุบัน และเนื่องจาก ธาตุอาหารโพแทสเซียม (K) เป็นธาตุที่ต้นข้าวนั้นต้องการใช้งานในปริมาณที่มากที่สุด สำหรับเกษตรกรส่วนมากที่มีการเพาะปลูกอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายปีติดต่อกัน โดยไม่มีการเติมธาตุอาหารโพแทสเซียม (K) เข้าไปเพิ่ม ธาตุอาหารก็ย่อมจะต้องหมดลงไปอย่างแน่นอน

ซึ่งนั้นก็จะส่งผลให้ผลผลิตของนาข้าวในหลายๆพื้นที่ ค่อยๆลดลงไปในแต่ละปีที่ทั้งที่เกษตรกรใส่ปุ๋ยสูตรเดิมเหมือนเมื่อก่อน

 

ปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 ใส่ปาล์มน้ำมัน

เกษตรกรสามารถเลือกใช้ ปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 ใส่ปาล์มน้ำมัน ได้ 2 วิธีคือ:

1. ใส่เป็นแม่ปุ๋ย 0-0-60 โดยตรงในปาล์มน้ำมัน ในปริมาณ 1 – 2 กิโลกรัม/ต้น/รอบ
   • เป็นธาตุอาหารที่สำคัญมากที่สุด และ ปาล์มน้ำมันต้องการในปริมาณมากที่สุด มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อ สร้างน้ำมัน เพิ่มน้ำหนัก และ บำรุงทะลายปาล์ม
   • ปริมาณความต้องการธาตุอาหารโพแทสเซียม (K) ในปาล์มน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามอายุ และ ขนาดของต้นปาล์ม
   • เป็นตัวเลือกในการลดต้นทุน โดยการผสมปุ๋ย โพแทสเซียม 0-0-60 ร่วมกับแม่ปุ๋ย หรือ ปุ๋ยสูตรอื่นๆ ด้วยตนเอง
2. ใส่ผ่านปุ๋ยสูตร 15-10-30 หรือ 14-10-30 ปริมาณ 2.5 – 3.5 กิโลกรัม/ต้น/รอบ
   • สำหรับปาล์มแก่ อายุมากกว่า 10 ปี แนะนำให้ใช้สูตร 12-5-38 หรือ 14-7-35 เนื่องจากต้นปาล์มจะมีความต้องการธาตุอาหาร โพแทสเซียม (K) ที่เพิ่มมากขึ้น
   • ปุ๋ยสูตรของ YVP และ แนนซี่ มีส่วนผสมของ ธาตุอาหารรองเสริม ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของต้นปาล์ม และ ช่วงบำรุงทะลายปาล์ม ได้แก่ ซัลเฟอร์ (S) แคลเซียม (Ca) และ แมกนีเซียม (Mg)
   • มีความสะดวกในการใช้งาน ไม่ต้องผสมคลุกเคล้าปุ๋ยด้วยตัวเอง ซึ่งอาจคลุกเคล้าได้ไม่ทั่วถึง หรือ อาจทำให้สูตรออกมาไม่ตรงตามความต้องการได้

วิธีใส่ปุ๋ยปาล์มน้ำมันในแต่ละช่วงอายุ ให้ทะลายใหญ่ ไม่ขาดคอ

คำยืนยันจากผู้ใช้จริง ปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 YVP ใส่ปาล์มน้ำมัน ทะลายดก ใหญ่ ลดอาการขาดคอ

ประโยชน์ของปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 ในปาล์มน้ำมัน:

ธาตุอาหารโพแทสเซียมมีหน้าที่ในการสร้างเนื้อ สร้างน้ำมัน เพิ่มน้ำหนักให้กับผลผลิต บำรุงทะลายปาล์ม ทำให้ทะลายปาล์มใหญ่ เป็นธาตุอาหารที่จำเป็นเพื่อให้ต้นปาล์มสามารถเปลี่ยนเอนไซม์ต่างๆให้เป็น น้ำมัน และ แป้ง ได้ จึงเป็นธาตุอาหารที่มีผลโดยตรงต่อผลผลิตของต้นปาล์มน้ำมัน

ธาตุอาหารโพแทสเซียม (K) จึงเป็นธาตุอาหารที่มีความสำคัญมาก และ ต้นปาล์มน้ำต้องการในปริมาณมากที่สุดในบรรดาธาตุอาหารทั้งหมด โดยเมื่อปาล์มน้ำมันมีอายุมากยิ่งขึ้น จะยิ่งมีความต้องการธาตุอาหารโพแทสเซียมเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

อาการเมื่อปาล์มน้ำมันขาดปุ๋ยโพสแทสเซียม 0-0-60:

อาการการขาดธาตุอาหารโพแทสเซียม (K) ในปาล์มน้ำมัน อายุ 1-3 ปีก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต จะทำให้ใบใหม่ของปาล์มสั้นลง แต่อาจแสดงอาการได้ไม่ชัดเจน เนื่องจากต้นปาล์มเล็ก และ ปาล์มแรกปลูก จะยังมีความต้องการธาตุอาหารโพแทสเซียม (K) ไม่สูงเท่ากับต้นปาล์มใหญ่ช่วยเก็บเกี่ยวผลผลิต

สำหรับปาล์มใหญ่ และ ปาล์มน้ำมันที่เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วนั้น อาการขาดธาตุอาหารโพแทสเซียม (K) จะชัดเจนมาก สังเกตได้จากใบปาล์มที่จะมีจุดหรือตุ่มสีเหลืองสีส้ม เริ่มโปร่งแสง เมื่ออาการหนักจะเปลี่ยนเป็นจุดสีน้ำตาลตรงกลางสีส้ม ปลายทางใบแห้ง เริ่มจากปลายใบจนกระทั่งทั่วใบ ใบปาล์มจะเปราะหักง่าย และแตกเป็นฝอย

ปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 ใส่มันสำปะหลัง

ปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 เป็นธาตุอาหารสำคัญในการระเบิดหัวมัน ขยายขนาด สร้างแป้ง และ เพิ่มน้ำหนัก โดยเกษตรกรสามารถเลือกใช้ ปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 ใส่มันสำปะหลัง ได้ 2 วิธีคือ:

1. ใส่ในรูปแบบปุ๋ยสูตรระเบิดหัวมัน 6-3-30 หรือ 6-0-30 หรือ 6-3-32 ปริมาณ 50 กิโลกรัม ต่อไร่ ในมันสำปะหลังอายุ 4 เดือน 
2. ใส่เป็นแม่ปุ๋ย 0-0-60 โดยตรงในมันสำปะหลัง ในปริมาณ 30 – 40 กิโลกรัม ต่อไร่ ในมันสำปะหลังอายุ 4 เดือน

ข้อมูลการใส่ปุ๋ยในมันสำปะหลัง

 

ปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 ได้จากอะไร?

ปุ๋ยโพแทส 0-0-60 ทั่วโลกมีแหล่งที่มา 2 ประเภท คือ:

1. สกัดจากน้ำทะเล: มีแหล่งเดียวในโลก คือจากทะเลที่เค็มที่สุดในโลก Dead Sea ประเทศอิสราเอล
2. ขุดจากเหมืองแร่ใต้ดิน: เช่น ประเทศแคนาดา, รัสเซีย, เบลารุส, จีน, เยอรมัน, ลาว เป็นต้น

โดย YVP GROUP เป็นตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 จากน้ำทะเล Dead Sea ประเทศอิสราเอล รายเดียวในประเทศ

ทะเลเดดซี Dead Sea คืออะไร?

ทะเลเดดซีคือทะเลแห่งเดียวในโลกที่มีความเข้มข้นพอที่จะนำมาผลิตปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 ได้ ซึ่งเป็นน้ำทะเลที่เค็มที่สุดในโลก อยู่ที่ประเทศอิสราเอล

ทะเลเดดซีคือทะเลสาบเกลือ ตั้งอยู่ในทางใต้ของประเทศอิสราเอลซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต่ำที่สุดในโลก ด้วยกาลเวลานับล้านปี ลักษณะที่เป็นแอ่งของพื้นที่ต่ำได้กักเก็บน้ำทะเลเอาไว้ มีการกัดกร่อนของดินและหิน

ประกอบกับลักษณะแห้งแล้งเช่นทะเลทราย น้ำจึงระเหยอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดความเค็มเข้มข้นอยู่ในทะเลเดดซี

เนื่องจากความเค็มเข้มข้น ทำให้ทะเลเดดซีปราศจากสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์ และเป็นที่มาของชื่อ Dead Sea นั่นเอง

แม้ว่าทะเลเดดซีจะไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ แต่ที่นั้นกลับเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยธาตุอาหารที่สำคัญของโลก

ทะเลเดดซีประกอบด้วย แร่ธาตุ โพแทสเซียม, แมคนีเซียม, โซเดียม, แคลเซียม, คลอไรด์ ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นแร่ธาตุที่สำคัญในการดำรงชีวิตของทั้งพืช สัตว์ และมนุษย์

ด้วยคุณสมบัติเช่นนี้ จึงทำให้น้ำทะเลเดดซีถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตมากมาย

ICL ผู้ผลิตปุ๋ย Potassium น้ำทะเล

 

ขั้นตอนการผลิตปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60 จากน้ำทะเล

น้ำทะเลเดดซีถูกนำขึ้นมาผลิตเป็นปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ด้วยระบบการระเหยด้วยแสงอาทิตย์ (Solar evaporation) ซึ่งเป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่ใช้สารเคมีน้อยที่สุด โดยจัดทำบ่อระเหยที่ระดับความลึกไม่มากนักเพื่อให้น้ำระเหยได้ดี

บ่อระเหยสำหรับโพแทสเซียมคลอไรด์ เรียกว่า บ่อ Carnallite เมื่อน้ำระเหยแล้วจะตกตะกอนเป็นแร่เกลือ แร่เกลือเหล่านี้จะถูกนำไปแยกชั้นเพื่อแยกธาตุอาหารจนกระทั่งเหลือในรูปปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ชนิดเกล็ด ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้เลย หรือสามารถนำไปขึ้นรูปเป็นปุ๋ยชนิดเม็ดได้

 

จุดเด่นของปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ 0-0-60 YVP

ปัจจุบัน YVP Group เป็นผู้นำเข้าเพียงหนึ่งเดียวของปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ 0-0-60 จากแหล่งน้ำทะเลประเทศอิสราเอล ซึ่งมีคุณสมบัติที่โดดเด่นดังนี้

• ผลิตจากน้ำทะเลบริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งเจือปนทางเคมีอื่น
• เทคโนโลยีการผลิตด้วยพลังงานสะอาดที่มาจากแสงอาทิตย์ ลดผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม จึงนำมาซึ่งปุ๋ยคุณภาพดีที่ปลอดภัย
• ละลายน้ำได้ดี พืชสามารถนำไปใช้ได้ทันที

อาการขาดธาตุอาหารโพแทสเซียมในพืช

พืชที่ขาดธาตุอาหารโพแทสเซียม จะมีอาการใบเหี่ยว ใบไหม้ ใบเหลือง หรือ ใบงอ มักเริ่มต้นแสดงอาการที่ใบแก่ก่อน แล้วจึงค่อยแสดงกับใบอ่อนเป็นลำดับถัดไป

 

ความเข้าใจผิดเรื่องปุ๋ยโพแทสเซียมในประเทศไทย

เนื่องจากดินในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ดินเหนียวดั้งเดิม มักจะมีธาตุอาหารโพแทสเซียมหลงเหลืออยู่ในดิน

หลายหน่วยงานจึงให้คำแนะนำแก่เกษตรกรไทยว่าธาตุอาหารโพแทสเซียมอาจไม่ได้จำเป็นที่จะต้องใส่เพิ่มในรูปแบบของปุ๋ยเคมี

ซึ่งแม้ว่าหลักการนี้อาจจะสามารถใช้ได้อดีต สิ่งที่เกษตรกรควรคำนึงถึงคือ ธาตุอาหารที่มีอยู่ในดิน จะหมดไปอย่างแน่นอนหากเรามีการทำการเกษตรในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

อาการขาดธาตุอาหารโพแทสเซียม จะส่งผลโดยตรงต่อผลผลิต และ ความแข็งแรงของพืช และ ยังส่งผลให้พิชไม่สามารถดูดซึมธาตุอาหารอื่นๆได้อย่างเต็มที่

ทำให้เกิดผลข้างเคียงอีกเป็นจำนวนมาก

เกษตรกร จึงควรศึกษา หรือ อาจตรวจสอบธาตุอาหารในดินอย่างถี่ถ้วน ก่อนที่จะเลือกหลีกเลี่ยงไม่ใช้งานปุ๋ยโพแทสเซียมในการเพราะปลูกพืชใดๆก็ตาม